อยากรู้ กดดูสิคะ

วันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

มาดูประโยชน์ของอาหารไทยกันดีกว่า

มาดูประโยชน์ของอาหารไทยกันดีกว่า


อาหาร ไทยมีความเหมาะสมกับ สุขภาพคือคนไทยนิยมกินข้าวร่วมกับกับข้าวที่เป็นสำรับที่มีอาหารอย่าง น้อย 2-3 อย่างในสำรับซึ่งกับข้าวไทยมีความหลากหลายของชนิดอาหารทำให้การกินอาหารของ คนไทยสามารถสับเปลี่ยนหมุนเวียนรายการอาหารได้ มาก ดังนั้น อาหารไทยในแต่ละมื้อจึงถือได้ว่าเป็นอาหารที่มีครบแทบทุกหมู่ ทำให้ได้รับสารอาหารค่อนข้างครบถ้วน
และ จากการวิเคราะห์คุณค่าอาหารไทยพื้นเมืองที่นิยมของแต่ ละภาค พบว่า มีคุณค่าทางโภชนาการที่เหมาะสมสำหรับเป็นอาหาร 1 มื้อ คือ ปริมาณพลังงานที่ได้รับจะไม่มากจนเกินไป และสัดส่วนของพลังงานที่ ได้จากสารอาหารหลักอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม

นอกจากคุณประโยชน์ของอาหารไทย ทางด้านโภชนาการแล้ว การใช้สิ่งที่ได้มาจากธรรมชาติมาช่วยในการปรุงแต่ง อาหาร เช่น การใช้สีจากดอกไม้ ใบไม้ การใช้ยางมะละกอทำให้เนื้อเปื่อย การใช้น้ำปูนใสทำให้อาหารกรอบ สารต่างๆ เหล่านี้นอกจากจะช่วยให้อาหาร มีรสชาติและสีสันสวยงามแล้ว สิ่งเหล่านี้นับว่ามีความปลอดภัยกว่าการใช้ สารสังเคราะห์ต่างๆ

จุด เด่นอีกอย่างของอาหารไทยคือ การใช้เครื่องเทศชนิดต่างๆ เพราะนอกจากจะทำให้อาหารมีรสและกลิ่นตามที่ต้องการแล้ว ส่วนใหญ่ยังมี สรรพคุณทางยา เช่น กระเทียม มีฤทธิ์อย่างอ่อนในการลดระดับไขมันใน เลือด ลดความดันโลหิต และจากการศึกษาในหลอดทดลองพบว่า สามารถ ยับยั้งการเกิดมะเร็งได้ พริกสดสามารถยับยั้งการหดตัวของหลอดเลือด ขิงมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ตะไคร้ช่วยลดความดันโลหิตและป้องกันการเกิดมะ เร็ง ดังนั้น จึงเห็นได้ว่าอาหารไทยเป็นอาหารเพื่อสุขภาพทั้งในแง่คุณค่าทาง โภชนาการและคุณค่าของพืชสมุนไพรที่ได้จากพืชผักและเครื่องเทศของไทย โดยแท้จริง

 

 

รวมร้านอร่อยในขอนแก่น..

ขอนแก่นเป็นแหล่งของอาหารอร่อยมากมายที่สามารถเลือกได้ตามรสนิย มของแต่ละคนแต่ละกลุ่ม โดยเฉพาะอาหารพื้น
เมืองที่หาที่ไหนมาเสมอเหมือนได้ยาก อย่างไรก็ตามอาหารร่วมสมัยที่โดดเด่นก็เยอะ มาเริ่มกันตั้งแต่มื้อเช้ากันเลยดีกว่า

มื้อเช้า หรือ มื้อกลางวัน

ร้านเอมโอช ขายไข่กระทะอยู่ถนนกลางเมือง หากเดินทางจากแยกถนนศรีจันทร์มุ่งหน้าไปศูนย์ราชการ ผ่านสถานีรถปรับ
อากาศทางขวามือแล้ว จะเห็นโรงแรมโรมาอยู่ทางซ้ายมือ ร้านเอมโอชอยู่ทางขวามือตรงข้ามกับโรงแรมเลยทีเดียว
เขาจะทอดไข่ดาวในกระทะอะลูมิเนียมใบเล็กๆใส่เนยมาร์การีน เมื่อไข่สุกจะโรยหน้าไข่ดาวด้วยกุนเชียงและหมูยอที่หั่นเป็น
ชิ้น เขามีขนมปังขายแยกต่างหาก ขนมปังร้านนี้อบมาหอมกรุ่นกรอบนอกนุ่มใน โดยผ่าด้านข้างของขนมปังแล้วทาเนยยัด
ไส้ด้วยกุนเชียงและหมูยอกินอร่อยมาก น้ำส้มคั้นก็เป็นน้ำส้มสด และยังมีกาแฟโบราณอีกด้วย (กาแฟโบราณ : คั่วเมล็ดกา
แฟจนเกือบไหม้ นำมาบดแล้วใส่ในถุงกาแฟที่ทำด้วยผ้าชงน้ำเดือดลงไปในถุง จะได้น้ำกาแฟที่หอมกรุ่นประเภทเดียวกับกา
แฟสด เติมนมข้นหวานลงไปแทนครีมและน้ำตาล) นอกจากนี้ทางร้านยังขายเกาเหลาเซี่ยงจี๊ ข้าวต้มซี่โครงหมู ก๋วยเตี๋ยวหมู

ต้มเลือดหมู ที่ขอนแก่นจะนิยมเรียกเซี่ยงจี๊ เลือดหมู และร้านดังมากๆมีอยู่สองร้านอยู่ไม่ไกลกันเท่าไหร่ ร้านแรกของเจ๊อ้วน
ไม่มีป้ายชื่อ จากสี่แยกถนนกลางเมืองตัดถนนศรีจันทร์มุ่งหน้าศูนย์ราชการสัก 50 เมตรเลี้ยวขวาเข้าถนนสถิตยุติธรรมทาง
ไปทางตลาดแผงลอยสัก 50 เมตรเช่นเดียวกัน ร้านเจ๊อ้วนอยู่ห้องแถวห้องแรกด้านขวามือ แกเป็นเจ้าตำหรับเซี่ยงจี๊เลือดหมู
ที่ลือลั่น ขายมาตั้งแต่ปี 2516 จนเดี๋ยวนี้ใครๆก็เลียนแบบ ร้านเปิดขายตั้งแต่ 06.15 น. จนถึง 11.00 น. คนกินเยอะจน
กระทั่งต้องมาตั้งโต๊ะเป็นแถวบนฟุตบาท แม้ว่าปัจจุบันนี้แกจะให้ลูกชายเป็นคนทำก็ตามแกจะนั่งหั่นเครื่ องไปกำกับลูกชายไป
รสชาติจึงเหมือนเดิมยังไงยังงั้นราคาของแก ชามละ 40-50 บาทยืนพื้น

ถ้าวิ่งเลยร้านแกจนผ่านหน้าตลาดแผงลอยจะเจอร้านเซี่ยงจี๊เลือดห มู (สูตรใหม่)ชื่อแก้วนัดพบ ร้านนี้ก็มีสูตรเฉพาะโดยใส่ผัก
จิงจูไฉ่ เต้าหู้อ่อนและสาหร่ายด้วย โดยไม่ใส่ผงชูรส หมูสับเขานุ่มดีมาก ทั้งกระเพาะ ไส้ เซี่ยงจี๊ สดและชิ้นหนา ราคาชามละ
35-40 บาท นอกจากนี้ที่ร้านยังมีโจ๊กหมู น้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ กาแฟโบราณด้วย

ข้าวขาหมูนางรอง ร้านตราจิตต์ ร้านนี้อยู่บนถนนกลางเมืองถ้าเดินทางจากสี่แยกถนนศรีจันทร์ตัดก ับถนนกลางเมืองมุ่ง
หน้าศูนย์ราชการ ก่อนจะสุดถนนกลางเมืองจะเห็นร้านตราจิตต์อยู่ทางขวามือติดกับโร งแรมรสสุคนธ์ จอดรถในโรงแรม
ได้เพราะหน้าร้านห้ามจอดบางเวลา ขาหมูนางรองเป็นขาหมูที่ถูกนำไปย่างเพื่อนำมาขูดขน ขณะเดียวกันการย่างทำให้
เกิดความหอมเพราะมันหมูจะตก เสร็จแล้วก็เคี่ยวให้นุ่มด้วยผงพะโล้และเครื่องปรุงอื่นตามสูตร ของใครของมัน ของที่นี่
จะสะอาดสะอ้านและกินอร่อย นอกจากนี้แล้วเขาจะมีพวกแกงจืดประเภท ตุ๋นมะระ ตุ๋นเกี้ยมไฉ่ มีขนมจีนน้ำยา ไข่พะโล้
ส่วนประเภทข้าวแกงเขาจะเปลี่ยนเมนูทุกวัน เช่น แกงเผ็ดมะระ กุ้งผัดสะตอ ฯลฯ โดยจะมีอย่างน้อย 2 อย่าง ของหวาน
ก็เช่นเดียวกันเขาจะเปลี่ยนไปทุกวัน

ข้าวแกงร้านครัวสุดา อยู่ถนนรื่นรมย์ ถ้าเดินทางมาจากถนนศรีจันทร์ถึงแยกหลักเมืองให้เลี้ยวเข้าถนนเท พารักษ์มุ่งหน้า
ไปทางสถานีรถไฟ ถึงสามแยกให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนรื่นรมย์ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือ หรือจากถนนหน้าเมืองวิ่งเข้าถนนรื่นรมย์
มุ่งหน้าไปทางสถานีรถไฟ ร้านจะอยู่ทางขวามือ ที่นี่มีแกง ผัด ต้ม หลากหลายมาก ฝีมือดี สะอาดน่ากินไปเสียทุกอย่าง
โดยเฉพาะขนมจีน มีทั้งน้ำยากระทิ น้ำยาป่า แต่ที่บุญสายติดใจมากๆคือข้าวทอดแหนมคลุก ข้าวทอดปรุงด้วยไข่ เกลือ
พริกไทย แล้วชุบไข่อีกรอบหนึ่งก่อนนำไปทอด แหนมเป็นแหนมสดทำกันวันต่อวัน เมื่อนำมาคลุกมะนาว น้ำปลา ใส่ผัก
สะระแหน่ กินกับผักแนมอื่นๆ โดยเฉพาะกับใบชะพลู บอกได้คำเดียวว่า เยี่ยม ร้านนี้เปิดกันตั้งแต่เวลา 06.30 น.ขายถึง
14.00 น. ก็เกลี้ยงแล้ว

มื้อกลางวัน หรือมื้อเย็น

ลุงเหลิม เป็นร้านอาหารที่มีความหลากหลายทั้ง ไทย จีน และอาหารพื้นเมือง อยู่ริมถนนมะลิวัลย์ ถ้าออกมาจากศูนย์ประ
ชุมเอนกประสงค์กาญจนาภิเษกมหาวิทยาลัยขอนแก่น เลี้ยวซ้ายเข้าถนนมะลิวัลย์ มุ่งหน้าเข้าเมืองไปอีกประมาณ 200
เมตร ร้านอยู่ซ้ายมือ ร้านเปิดขายตั้งแต่ 10.00 น. ถึง 24.00 น. ทุกวัน นอกจากอาหารอร่อยเยี่ยมแล้วราคาอาหารถูก
มาก เมนูที่บุญสายชอบมี ปลาไหลผัดเผ็ด (ใส่พริกสดและพริกไทยสดด้วยจึงทั้งเผ็ดทั้งร้อน) กบเมาเครื่อง (ผัดสมุนไพร)
กวางผัดพริกไทยดำกระทะร้อน (กวางเลี้ยงในฟาร์ม) ซุบหางวัว นอกจากนั้นยังมีอาหารตามสั่งอื่นๆทั้งอาหารไทยและ
อาหารจีน

ไก่ย่าง มิตรภาพเขาสวนกวาง อยู่ถนนมะลิวัลย์เช่นเดียวกันเยื้องๆประตูทางเข้ามหาวิทยาลัย ไก่ย่างเขาสวนกวางนี้มีชื่อลือ
ลั่นจนมีกันอยู่ทุกหัวระแหง เพราะไม่รู้ว่าใครมีลิขสิทธิ์อย่างไรหรือไม่ แต่ที่นี่ก็ถือเป็นเจ้าตำหรับด้วยอีกเจ้าหนึ่งเพราะฝี
มือย่างไก่อร่อยจริงๆ และแน่นอนร้านไก่ย่างก็ต้องมีส้มตำเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ส้มตำที่นี่ไม่ได้น้อยหน้าใครในขอนแก่น
บรรดาอาจารย์และนักศึกษามาอุดหนุนกันอย่างเนืองแน่นแทบทุกวัน ร้านเปิดเวลา 09.00 น. ถึง เวลา 16.00 น.

ร้านไก่ย่างอีกร้านหนึ่งชื่อ ระเบียบเขาสวนกวาง ถ้ามาจากสี่แยกถนนมิตรภาพบริเวณสามเหลี่ยมมุ่งหน้าเข้าเมืองตาม ถนน
ประชาสโมสร เกือบถึงหน้าศูนย์ราชการให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเทพารักษ์ ไปจนเกือบสุดถนนจะเห็นร้านอยู่ทางขวามือ ร้าน
ไก่ย่างนี้เป็นต้นตำหรับของไก่ย่างเขาสวนกวาง เขาเลือกใช้ไก่กระทง หมักด้วยเครื่องปรุงกระเทียมพริกไทยและซ็อสตรา
ภูเขา ย่างด้วยเตาถ่านแบบค่อนข้างแห้ง ทำให้เคี้ยวมัน ส้มตำมีหลากหลายให้สั่งได้ ทั้งตำไทย ตำลาว ตำปู ตำถั่ว ตำแตง
ตำซั่ว โอ้ย เขียนไปน้ำลายหกไป เปิดร้านตั้งแต่เวลา 09.00 น. ถึง 15.00 น. ทุกวัน

ร้านเป็ดย่าง ไม่ใช่เป็ดย่างแบบข้าวหน้าเป็ดแต่เป็นเป็ดย่างแบบไก่ย่าง ชื่อร้านครัวเกษตร ถ้ามาตามถนนประชาสโมสรผ่าน
หน้าศูนย์ราชการแล้วให้ผ่านแยกถนนเทพารักษ์อีกจึงเลี้ยวซ้ายเข้ าถนนกสิกรทุ่งสร้าง (ถนนในเส้นทางมาราธอน) จะเจอซุ้ม
เฉลิมพระเกียรติครองราช 60 ปีฯ ร้านอยู่ทางขวามือตรงประตูซุ้มพอดี เป็ดย่างแบบนี้หากินได้ไม่ง่ายนัก ต้นตำหรับเป็ด
ย่างอยู่ที่อำเภอพิมาย ต่อมาก็ขยายไปโคราชและจังหวัดอื่นๆในภาคอิสาน อาหารอื่นๆก็มีประเภทลาบ น้ำตก ส้มตำ ต้มแซบ
ไส้กรอก แหนม ฯลฯ

ปลาป้าใหญ่ อยู่บนถนนริมบึงแก่นนคร ถ้าเดินทางจากถนนหน้าเมืองมุ่งหน้าไปทางสนามม้าเก่าพอถึงสามแยก ตัดกับถนน
ริมบึงให้เลี้ยวซ้าย เช่นเดียวกันถ้ามาตามถนนกลางเมืองมุ่งหน้าไปเมืองเก่า พอถึงสี่แยกที่ตัดกับถนนริมบึงให้เลี้ยวซ้ายจะ
เห็นร้านปลาป้าใหญ่อยู่ทางซ้ายมือ ป้าใหญ่เจ้าของร้านฝีมือเด็ดแต่ป้าน้อยน้องสาวเป็นแม่ครัวเอกฝี มือเด็ดกว่าอีก ป้าน้อย
เคยแยกไปเปิดร้านของตัวเองชื่อปลาป้าน้อยซึ่งอยู่ถัดจากร้านปลา ป้าใหญ่ไปสัก 50 เมตร ปัจจุบันแกขายกิจการแล้วกลับ
มาอยู่ที่ร้านปลาป้าใหญ่ อาหารเด็ดของที่นี่จะเป็นประเภทปลาและเห็ด ถ้าเป็นหน้าฝนละก็มีเห็ดตับเต่า เห็ดละโงกด้วย
เห็ดเหล่านี้เมื่อนำไปแกงใส่ใบย่านาง นอกจากรสชาติจะหอมหวานแล้วเมือกลื่นๆของเห็ดมันกลมกล่อมจนไม่รู ้ลืมเลือน
ต้มปลาโจกใบมะขามอ่อนเด็ดนัก ปลาโจกหรือปลาตะโกกเป็นปลาน้ำจืดที่กินอร่อยโดยเฉพาะเนื้อตรงท้ องจะนุ่มและมัน
ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียม ปลาตัวโตมากประมาณคร่าวๆสัก 1 กิโลกรัมเห็นจะได้เมื่อทอดแล้วจะดูเหลืองน่ากิน กรอบ
นอกนุ่มใน หมกลาบปลาตอง เขาใช้ปลาตองหรือปลากรายมาทำลาบโดยคลุกน้ำปลามะนาวข้าวคั่วต้นห อมใบสะระแหน่
แล้วเอาใบตองมาห่อนำไปหมกที่เตา ตอนเสิร์ฟเขาจะหั่นให้ได้ขนาดพอคำ เคี้ยวเหนียวนุ่มเหมือนลูกชิ้นปลาแต่รสชาติ
เป็นลาบ อาหารอื่นมีอีกมากมายไม่ว่าจะเป็น ปลารากกล้วยทอด ผัดเผ็ดหน่อไม้ดอง แกงเห็ดเผาะผักหวาน พูดถึงเห็ดเผาะ
แล้ว อยากบอกว่าเดี๋ยวนี้หากินได้เกือบตลอดปี ภูมิปัญญาชาวบ้านกับวิธีเก็บรักษานัยว่าใช้เกลือเก็บ แต่ไม่รู้ว่าเก็บอย่างไร
เพราะกินทีไรก็รู้สึกว่าเป็นเห็ดสดทุกทีและก็ไม่เค็มด้วย ร้านเปิดขายตั้งแต่ 11.00 น. ถึง 22.00 น. ทุกวัน

เคียมห้วย อาหารอิสานและอาหารป่า อยู่บนถนนกสิกรทุ่งสร้าง (บนเส้นทางมาราธอน) หากเดินทางมาตามถนนประชา
สโมสรบริเวณศูนย์ราชการจะเจอถนนเส้นหนึ่งติดกับศูนย์ราชการชื่อ ถนนกสิกรทุ่งสร้างให้วิ่งตรงไปตามถนนที่ว่านี้จน
เกือบถึงแยกที่ตัดกับถนนอ้อมเมือง จะเห็นร้านอยู่ทางขวามือ บรรยากาศของร้านเป็นลักษณะคล้ายรีสอร์ท มีห้วยผ่ากลาง
ที่ดิน อาหารปรุงแบบรสแซบเป็นส่วนใหญ่ และมีของแปลกๆมาให้กินด้วย โดยเฉพาะปลาไหลต้มเปรตที่นี่มีชื่อที่สุด นัก
ชิมประเภทดื่มแอลกอฮอล์ด้วยจะชอบมาก ร้านเปิดเวลา 10.00 น. ถึง 23.00 น. ทุกวัน

เล่าลี่ เป็นร้านอาหารจีนเก่าแก่ชื่อดังของจังหวัดขอนแก่น อยู่ในซอยเล็กๆแยกจากถนนศรีจันทร์เพียงนิดเดียว ถ้าเดินทาง
มาตามถนนศรีจันทร์จากสี่แยกถนนหลังเมืองมุ่งหน้าไปกาฬสินธุ์ ให้สังเกตปั๊มน้ำมัน Jet อยู่ซ้ายมือ ซอยที่ว่านี้อยู่เยื้องๆ
กันทางด้านขวามือ เข้าซอยไปสัก 20 เมตรร้านอยู่ซ้ายมือ เมนูเด็ดมี หมูหัน และหมูหันฮ่องกง สองอย่างนี้ต้องโทรจอง
ล่วงหน้า หมูหันหนังจะล่อนเวลากินก็กินได้แต่หนังหมูล้วนๆ ส่วนหมูหันฮ่องกงนั้นจะมีเนื้อติดหนังซึ่งกินอร่อยมากกว่า
นอกนั้นจะมี หูฉลาม หน่อไม้ทะเล ขาห่านน้ำแดง เป็ดยัดไส้ ปลาชิคัก อย่าลืมจองโต็ะล่วงหน้าโดยเฉพาะช่วงมาราธอน
ร้านเปิดเวลา 10.00 น. ถึง 24.00 น. ทุกวัน

เอเชียหูฉลาม หัวปลาหม้อไฟ อยู่บนถนนศรีจันทร์ถ้ามุ่งหน้าไปทางกาฬสินธุ์ ผ่านแยกถนนกลางเมืองแยกถนนหลัง
เมืองแล้วชิดซ้ายได้เลย ร้านอยู่ซ้ายมือห่างจากสี่แยกถนนหลังเมืองสัก 30 เมตรเห็นจะได้ เป็นร้านเก่าแก่ตั้งมาสัก 30
กว่าปีแล้วเห็นจะได้ นอกจากหูฉลามและหัวปลาหม้อไฟตามชื่อร้านแล้ว เมนูเด็ดอื่นๆก็มี ผักบุ้งไฟแดงที่นี่ไม่ค่อยเหมือน
ใครก็ตรงเส้นผักบุ้งเรียงเป็นระเบียบไม่พันกัน ที่สำคัญคืออร่อยเสียด้วย จั๊บไฉ่ใส่มะระ หมูสามชั้นไข่พะโล้ ปลาโอวฮื้อ
(ปลากระบอกจีน) นึ่งแล้วแช่เย็น กินเนื้อปลาแล้วยังเอาหนังปลาไปทอดกรอบมากินได้อีก ต้มยำหัวปลากะพง เนื้อปลาลวก
และข้าวต้มปลา ร้านเปิดเวลา 16.00 น. ปิดเวลา 24.00 น. ทุกวัน

ซอเร็นโต้ ราดหน้าเศรษฐี ร้านซอเร็นโต้มีความหลากหลายเป็นอันมากเพราะมีตั้งแต่อาหารญี่ป ุ่น ทั้งปลาดิบ ข้าวปั้น
อาหารฝรั่ง รวมทั้งเบเกอรี่ และอาหารไทยจีน ตอนค่ำยังมีวงดนตรีเล่นกล่อมลูกค้าด้วยทำให้มีความคึกคักดี ร้านอยู่ติด
กับโรงแรมโรมา ถนนกลางเมือง ถ้ามาจากสี่แยกถนนกลางเมืองตัดกับถนนศรีจันทร์มุ่งหน้าไปทางศูน ย์ราชการ ร้านจะ
อยู่ทางซ้ายมือ เมนูที่อยากแนะนำให้ไปลองชิมคือราดหน้าเศรษฐี ชื่อก็บ่งบอกเป็นนัยๆอยู่แล้ว ว่าเครื่องที่ใส่ล้วนได้รับ
การคัดสรรมาเป็นอย่างดี เช่นกุ้งสดๆตัวใหญ่ๆ ปลาหมึกสด กรอบอร่อย เนื้อปลากะพงสด ยอดผักคะน้า ผัดกับน้ำมัน
หอยแล้วราดบนเส้นที่ผัดจนหอม กรอบนอกนุ่มใน นอกนั้นก็มีแฮ่กึ๊นทอด แฮ่กึ๊นที่นี่ทำสดๆโดยเอาเนื้อกุ้งมาบดปรุงด้วย
เครื่องปรุงตามสูตร พันด้วยฟองเต้าหู้แล้วจึงทอดเป็นออร์เดอร์ต่อออร์เดอร์ ไม่ใช่ทำมาล่วงหน้า เพราะฉะนั้นเนื้อกุ้งจะ
นุ่มไม่แข็งกระด้าง อีกเมนูหนึ่งที่อยากให้ลองคือยำก๋วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้ เขาใช้เส้นก๋วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้ไปลวกให้พอเหมาะ
เส้นจะเหนียวหนุบเอาไปคลุกเคล้ากับยอดคะน้า กุ้งสด และหมูสับ น้ำยำรสแซบ กินแล้วลืมไม่ลงจริงๆ ร้านเปิดตั้งแต่
เวลา 09.00 น. ถึงเวลา 24.00 น. ทุกวัน

ประไพร ร้านอาหารไทยอิสานที่อยู่ห่างจากสนามบินขอนแก่นสัก 300 เมตรเห็นจะได้ คนที่จะเดินทางกลับกรุงเทพทาง
เครื่องบินมักจะมากินอาหารที่นี่ นอกจากอาหารอร่อยแล้วจะได้รู้ว่าเครื่องบินลงหรือยังอีกด้วย พอเครื่องบินลงก็เช็คบิล
ออกจากร้านไปขึ้นเครื่องทันสบาย ถ้าถึงเวลาแต่เครื่องยังไม่ลงก็ยังนั่งกินดื่มรอได้อย่างไม่ต้อ งกระวนกระวายใจ
ร้านประไพรนี้เด่นเรื่องอาหารปลา พวกปลาน้ำจืดต่างๆไม่ว่าจะเป็นปลาโจก ปลาแข้ ปลาตอง ปลาคัง ปลาเนื้ออ่อน ไม่ว่า
ต้มยำ ทอดกรอบ ลาบ หรือหมก ล้วนแต่อร่อยทั้งสิ้น แม้แต่ไส้กรอกอิสาน เขาใช้ปิ้งไม่ใช่ทอด เพราะฉะนั้นแทนที่มันจะ
อมน้ำมันมันจึงเป็นการรีดน้ำมันออกแทน หมกเห็ดขอน ผักหวานผัดน้ำมันหอยอร่อยเด็ดจริงๆ แต่ที่แน่ที่สุดเห็นจะเป็น
ปลาส้มทอด ปลาส้มเขาเป็นปลาตะเพียนหมักจนเปรี้ยวเข้าเนื้อกำลังดี ทอดแบบกรอบนอกนุ่มในเอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม

กรีนลีฟ เป็นร้านอาหารฝรั่ง อย่าไปเผลอสั่งข้าวต้มเป็นอันขาด เขาไม่มีขาย ร้านนี้อยู่ใกล้ๆร้านประไพร ห่างจากสนามบิน
ขอนแก่น 400 เมตร นั่นก็หมายความว่าถึงก่อนร้านประไพรนั่นเอง การตกแต่งร้านสวยหรูใช้ได้ทีเดียว เมื่อไม่มีข้าวต้ม
ก็ต้องมีซุป ไม่ว่าจะเป็นซุปข้าวโพด ซุบเห็ด ก็เหมาะเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย จะตามด้วยสลัดผักจานโต โดยเฉพาะสลัดกุ้ง
แล้วจึงจะถึงอาหารหลักซึ่งก็มีเนื้อสเต๊ก หมู แกะ หรือ ปลาก็ได้ แต่ถ้ากินสไตล์ไทยๆก็สั่งมาหลายๆอย่างแล้วแบ่งกันชิม
อย่างละคำสองคำ เราจะได้กินอาหาร 6-7 อย่างสบายๆ เช่นหอยแมงภู่อบเนย หอยแมงภู่อบกระเทียม ซึ่งอร่อยทั้งคู่ เนื้อ
สเต๊กจิ้มแจ่ว (ฝรั่งเห็นคงร้องไห้แน่เลย เพราะเอาของเขามาดัดแปลงเสียเริด) สปาเก็ตตี้ปลาเค็ม เป็นต้น ร้านเปิดตั้งแต่
เวลา 10.00 น. ถึง 22.00 น. ทุกวัน

โจ๊ก จั๊บ เส้น เป็นอาหารสไตล์เวียตนาม เหมาะจะกินเป็นอาหารรอบดึก แต่เจ้าที่อยู่เยื้องโรงแรมเจริญธานีปริ๊นเซส ด้าน
ถนนหน้าเมือง เป็นแผงลอยไม่มีชื่อตั้งขายตั้งแต่ 17.30 น. ถึงประมาณตีหนึ่งทุกวัน โจ๊กคงไม่ต้องบรรยายมากแต่เขาจะ
ใส่หมูยอให้ด้วย จั๊บ คือก๋วยจั๊บญวนนั่นเองเส้นจะออกกลมๆอ้วนๆยาวๆ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4 มิลลิเมตรเห็นจะได้ น้ำ
ข้นเหนียวมีเครื่องเป็นกระดูกหมูและหมูยอ ใส่กระเทียมเจียวโรยด้วยผักชีและพริกไทย ส่วน เส้น นั้นคือวุ้นเส้น เหมือน
ก๋วยเตี๋ยวเรา น้ำสีพะโล้ แต่เครื่องจะเป็นไก่ โดยเฉพาะตีนไก่ หน้าแข้งไก่ ที่เขาต้มจนเปื่อยกินง่าย ยิ่งถ้าจิ้มน้ำจิ้มแบบ
บุญสายด้วยแล้วละก็ รับรองเบรคแตก น้ำจิ้มแบบบุญสายคือ พริกน้ำส้มใส่ถ้วยใบเขื่องหน่อยเหยาะพริกน้ำปลาลงไปหน่อย
หนึ่งแล้วเติมน้ำมันกระเทียมเจียวเป็นกระเทียมมากหน่อย คนจนเข้ากันเท่านั้นแหละ คนกินโจ๊ก หรือจั๊บก็สั่งตีนไก่มากินเล่น
คนกินเส้นก็สั่งหมูยอมากินเล่น มีความสุขดีแท้

ที่มา จากบุญสายชวนชิม

อาหารไทย

     

อาหารไทย
าหารไทยเป็นอาหารที่ประกอบด้วยรสเข้มข้น มีเครื่องปรุงหลายอย่าง รสชาติอาหารแต่ละอย่างมีรสเฉพาะตัว
การใช้เครื่องปรุงรสต่าง ๆ ก็ไม่เหมือนกัน ผู้ประกอบอาหารไทยต้องศึกษาจากตำราอาหารไทยและผู้เชี่ยวชาญ
การทำอาหารไทยให้อร่อยต้องใช้ความชำนาญ และประสบการณ์ ตลอดจนกรรมวิธีในการประกอบอาหารไทย
ผู้ทำจะต้องพิถีพิถัน ประณีต มีขั้นตอนเพื่อให้อาหารน่ารับประทาน
อาหารไทยแบ่งตามรสชาติดังนี้ คือ
รสเค็ม
อาหารไทยได้รสเค็มจากน้ำปลาเป็นส่วนใหญ่ การประกอบอาหารไทยเกือบทุกชนิด ถ้าต้องการรสเค็มแล้ว
จะขาดน้ำปลาไม่ได้เลย สังเกตจากเวลารับประทานอาหาร จะต้องมีถ้วยน้ำปลาเล็ก ๆ รวมอยู่ในสำรับอาหาร
แต่บางครั้งนอกจากน้ำปลาแล้วยังใช้เกลือหรือซีอิ๊วขาวเป็นตัวปรุงรสอาหารให้เกิดความเค็ม
รสหวาน
การประกอบอาหารไทยรสหวาน โดยทั่วไปในอาหารไทยใช้น้ำตาลทรายในการประกอบอาหารแล้ว ยังมี
น้ำตาลอีกหลายชนิด เช่น น้ำตาลมะพร้าว น้ำตาลทรายแดง น้ำตาลโตนด น้ำตาลปี๊บ ฯลฯ
รสเปรี้ยว
อาหารไทยนอกจากจะได้จากน้ำส้มสายชู แล้วยังมีมะนาว และที่นำมาใช้ประกอบอาหารกันมาก โดยที่
ประเทศอื่น ๆ ไม่มีใช้ก็คือ ความเปรี้ยวที่ได้จากน้ำส้มมะขามเปียก น้ำมะกรูด น้ำส้มซ่า นอกจากนั้นรสเปรี้ยวจาก
ใบมะขามอ่อน ใบมะดัน ใบส้มป่อย มะดัน ซึ่งรสเปรี้ยวจากสิ่งเหล่านี้มีแต่ในอาหารไทยเท่านั้น
รสเผ็ด
รสชาติอาหารของประเทศใดก็ไม่เผ็ดร้อนเหมือนอาหารไทย รสเผ็ดที่ได้จากอาหาร มาจากพริกขี้หนู
พริกชี้ฟ้าสด เรายังนำมาตากแห้งเป็นพริกแห้ง คั่วแล้วป่นเป็นพริกป่น รสเผ็ดเป็นรสที่อาหารไทยจะขาดไม่ได้
ในการประกอบอาหารคาวชนิดที่ต้องมีรสเผ็ด การจะใส่พริกมากน้อยขึ้นอยู่กับความต้องการรสเผ็ดของผู้บริโภค

รสมัน
อาหารไทย ได้รสมันจากกะทิและน้ำมันเป็นส่วนใหญ่ ในการประกอบอาหารไทยโดยเฉพาะอาหารประเภท
แกงกับขนมไทย ความมันที่ได้จะมาจากแกงที่ใส่กะทิ เช่นแกงหมูเทโพ แกงเขียวหวาน ขนมชั้น ตะโก้ฯลฯ ฉะนั้นรสชาติของอาหารไทย จึงมีความกลมกล่อมจากรสชาติต่าง ๆ ตามที่กล่าวมาข้างต้น